.............

.......... . ขอเพลงกับDJ - PJ MusicPlzZa ™
......... กับเหล่าดีเจพีเจได้ตลอด24ชั่วโมง

...........{[ทางเลือกใหม่ของคนฟังเพลง]...........

หงส์สุดยอดบุกสอยสิงห์บลูส์อีก 2-0 ลิ่วตัดเชือกคาร์ลิ่ง
วันที่ 11/30/2011 4:54:49 AM

 
 
ทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทำผลงานสุดยอดบุกไปเอาชนะ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ได้อีกครั้งด้วยสกอร์ 2-0 จากประตูของ มักซี่ โรดริเกวซ และมาร์ติน เคลลี่ ทำให้ได้ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศคาร์ลิ่ง คัพ


ฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย (29 พ.ย.54) เชลซี 0-2 ลิเวอร์พูล
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
ประตู :
0-1 มักซี่ 58
0-2 เคลลี่ 63

“สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ลงสนามในคาร์ลิ่ง คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้ายโดยเจอศึกหนักรับมือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เกมนี้อังเดร วิลลาส-โบอาส ปรับทัพเกือบยกชุดแต่มีเฟร์นานโด ตอร์เรส อดีตขวัญใจแอนฟิลด์นำทัพในแนวรุกร่วมกับโรเมลู ลุคาคู ขณะที่ทีมเยือน เคนนี่ ดัลกลิช ต้องปรับทัพเกือบทุกตำแหน่งเช่นกันเนื่องจากเพิ่งลงเล่นกับแมนฯ ซิตี้ มาในวันอาทิตย์ แต่มี เคร็ก เบลลามี่ ที่ทำใจลงสนามได้อีกครั้งนำทัพร่วมกับแอนดี้ แคร์โรลล์ ในแนวรุก ซึ่งก่อนเกมก็มีการยืนปรบมือไว้อาลัยให้แก่ แกรี่ สปีด ด้วย

เกมในช่วงออกสตาร์ท 20 นาทีแรกเป็นไปอย่างสูสีโดยทั้งสองทีมต่างต่อสู้กันในแดนกลางเป็นหลัก โดยในพื้นที่สุดท้ายยังไม่สามารถสร้างความอันตรายให้กันได้มากนัก จังหวะง้างเท้ามีแค่จังหวะยิงด้วยขวาของ แคร์โรลล์

มาถึงนาทีที่ 21 ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดายเมื่อได้จุดโทษจากจังหวะที่โฆเซ่ เอ็นริเก้ เปิดบอลจากซ้ายเข้าไปให้แคร์โรลล์ ปรากฏว่าอเล็กซ์ ใช้แขนกางจึงโดนเป็นลูกแฮนด์บอลเสียจุดโทษทันทีแถมโดนใบเหลืองด้วย แต่แคร์โรลล์ กลับซัดเต็มเหนี่ยวไปตรงกลางประตูทำให้โดน รอสส์ เทิร์นบูลล์ เซฟได้

หลังจากนั้นเกมเปิดฉากแลกกันอย่างสนุกขึ้นแต่ดูแล้วเป็นทีมเยือนที่เล่นเป็นทรงมากกว่า แต่เชลซี เกมมาดีขึ้นเมื่อผ่าน 30 นาทีแรกไปแล้วแต่จังหวะการทำประตูยังหากันไม่ได้เลยเนื่องจากแนวรับทั้งสองทีมทำหน้าที่ได้ดีมาก

โอกาสสุดท้ายของครึ่งแรกเป็นของเจ้าบ้านเชลซี โดยเป็น ลุคาคู ที่ได้ทะยานขึ้นโขกบอลเหนือ โคอาเตสและคาร์ราเกอร์ บอลเกือบเสียบเสาไกลแต่หลุดออกไปนิดเดียวชนิดที่โฆเซ่ เรน่า ได้แต่มองตามแล้ว ก่อนที่เกมจะจบครึ่งแรกด้วยการเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลังเกมทำท่าว่าจะสนุกขึ้นโดยเฉพาะเจ้าบ้านที่ครองเกมได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน และมีโอกาสจะได้ประตูขึ้นนำด้วยจากลูกฟรีคิกริมเส้นฝั่งขวา แลมพาร์ด เปิดเข้ามาที่เสาไกลมาถึง มาลูด้า เข้าถึงบอลแม้จะโดนไม่ดีแต่ก็ยังไปกระดอนชนคานลงมา ลุยซ์ ได้ซ้ำเผาขนก็ติดโคอาเตสที่ยืนขวางไว้

แต่จากนั้นนาทีที่ 58 ลิเวอร์พูล ที่เกมเป็นรองอยู่ในช่วงนั้นกลับมาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะโต้กลับ และเป็น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ได้บอลตรงกลางสนามก่อนจ่ายตัดหลังแนวรับทั้งริ้วให้ เบลลามี่ หลุดไปทางขวาก่อนเปิดใส่พานไปเสาไกลให้ มักซี่ เข้าฮอสด้วยอีซ้ายเป็นประตูนำ 1-0

อีก 5 นาทีถัดมาสกอร์ก็ขยับเป็น 2-0 อีกโดยเป็น เบลลามี่ เจ้าเก่าที่เป็นคนเปิดฟรีคิกจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้าไปกลางประตูให้ มาร์ติน เคลลี่ ขึ้นโขกเหน่งๆคนเดียวไม่มีตัวประกบ เป็นประตูแรกของกองหลังดาวรุ่งกับลิเวอร์พูลด้วย

เขลซี มีการเปลี่ยนตัวเอา นิโกล่าส์ อเนลก้า และฆวน มาตา ลงมาแก้เกม ขณะที่ลิเวอร์พูล ต้องเสียลูคัส เสาหลักในแดนกลางของทีมไปในจังหวะที่เข่ากระแทกกับมาตา จนฝืนเล่นต่อไม่ไหวต้องเปลี่ยนเอา ชาร์ลี อดัม ลงมา

เจ้าบ้านพยายามเอาคืน มาตา แทงบอลต่อให้ ไรอัน แบร์ทรานด์ แบ็กซ้ายเติมไปเปิดเข้ากลางมา ตอร์เรส ได้ขึ้นโขกแต่โหนเกินไปทำให้บอลเบา เรน่า รับไม่ยาก แต่เกมของเชลซี ดีขึ้นเรื่อยๆสามารถกดดันจนทีมเยือนเริ่มโงหัวไม่ขึ้น

อเนลก้า มีจังหวะได้หลุดเดี่ยวทะลุเข้าเขตโทษและพยายามจิ้มหลบเรน่า ที่ถลาออกมาตัดบอลได้แต่ว่าสุดท้ายยิงไปมีกองหลัง ลิเวอร์พูล ลงมาคุมเส้นช่วยสกัดเต็มไปหมด จากนั้นตอร์เรส ได้โอกาสขวิดบอลจากลูกเตะมุมเต็มๆหัว แต่เรน่า คราวนี้เซฟได้ยอดเยี่ยม

ลิเวอร์พูล แม้จะเสียลูคัสในแดนกลางแต่ก็ตั้งรับได้อย่างเหนียวแน่น สุดท้ายรักษาสกอร์ได้และจบเกมด้วยชัยชนะ 2-0 ได้ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศต่อไป



ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 11/30/2011 5:03:51 AM

อัพเดทแอพพิเคชัน สำหรับแชทXAT
Adobe Flash Player 11.0.1.152 (3.62 MB) โหลดคลิก

โค้ดห้องแชท MUSIC PLA ZA

โค้ดทีวีออนไลน์ MusicPlaza


เจ้าของเว็บไซต์ MusicPlzZa™ สถานะสีีี
มิวสิคพาร์ซ่าส์ : เกิดขึ้นได้อย่างไร

Free Web Hosting